พระบรมราโชวาท

ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๓๕

วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว



จำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว

การจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวนั้น อาจมีได้อยู่หลายกรณี

แต่ก็กรณีที่จะพูดถึงในที่นี้ขอกล่าวถึง การจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวในคดีอาญา ซึ่งคู่ความ หรือจำเลยกับผู้เสียหายสามารถตกลงยอดเงินค่าเสียหายกันได้

ในกรณีคดีอาญาที่จำเลยตกลงรับสารภาพ และตกลงยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายนั้น คู่ความอาจร่วมกันแถลงต่อศาลเพื่อขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวได้ (การจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราว คือ การที่ศาลหยุดการพิจารณาคดีใดคดีหนึ่งเป็นการระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งจะเป็นระยะเวลาเท่าไร ก็ขึ้นอยู่กับเหตุที่ทำให้ศาลต้องจำหน่ายคดีชั่วคราว)

เช่นจำเลยตกลงขอผ่อนชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายเป็นระยะเวลา ๑ ปี ก็สามารถใช้ระยะเวลาตรงนี้แถลงต่อศาลเพื่อขอให้ศาลจำหน่ายคดีออกจากสารบบชั่วคราวได้

*หมายเหตุ บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างออกไป หากต้องการปรึกษาคดี ทนายความ กรุณาสอบถามเพิ่มเติม

**ปรึกษาคดี ปรึกษากฎหมาย ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร

คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา


คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา


ถ้าจะให้อธิบายอย่างย่อๆ ก็คือ การกระทำผิดหนึ่งอย่างที่เป็นทั้งความผิดทางคดีอาญา และเป็นความผิดในทางแพ่งด้วย


ตัวอย่างเช่น นายAจงใจใช้ไม้หน้าสามไปทุบตีรถของนายBจนได้รับความเสียหาย กรณีแบบนี้นายBมีสิทธิดำเนินคดีอาญาข้อหาทำให้เสียทรัพย์กับนายAเพื่อให้นายAได้รับโทษทางอาญาเช่นติดคุก และในอีกทางหนึ่งนายBก็มีสิทธิฟ้องร้องนายAเป็นคดีแพ่งเรียกร้องให้นายAชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายBได้ในข้อหาละเมิด


ในคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญามีอยู่หลายการกระทำที่อาจเป็นความผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญาพร้อมกัน


ซึ่งบางการกระทำความผิดผู้เสียหายก็สามารถเลือกได้ว่าจะดำเนินคดีอาญา และเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งไปในคดีอาญาด้วยเลยก็ได้


หรือบางครั้งผู้เสียหายอาจเลือกฟ้องแยกคดีก็ย่อมทำได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเจตนาในการดำเนินคดีของผู้เสียหาย


*หมายเหตุ บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างออกไป หากต้องการปรึกษาคดี ทนายความ กรุณาสอบถามเพิ่มเติม

**ปรึกษาคดี ปรึกษากฎหมาย ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร

วันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

โดนฟ้องหนี้บัตรเครดิต ต้องทำอย่างไร


โดนฟ้องหนี้บัตรเครดิต ต้องทำอย่างไร


สวัสดีครับ วันนี้จะพูดถึงเรื่องหนี้บัตรเครดิต


บัตรเครดิตนั้น เมื่อเวลาเรานำไปใช้ซื้อของ ก็จะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยให้ ถ้าหากเราชำระภายในกำหนด


แต่ถ้าเลยกำหนด ก็จะต้องเสียดอกเบี้ย ซึ่งบางครั้งดอกเบี้ยก็สูงมาก และเมื่อเลยกำหนดไปมากๆ ก็จะถูกฟ้องให้ชำระหนี้


หนี้บัตรเครดิตนั้น เป็นคดีแพ่ง หากเราตกเป็นจำเลย เราจะได้รับหมายศาล ซึ่งหมายศาลมักจะกำหนดนัดครั้งแรกว่าเป็น นัดไกล่เกลี่ย ให้การ สืบพยานโจทก์


หลายครั้ง เมื่อตกเป็นจำเลย และศาลมีหมายมาส่ง จำเลยมักเลือกที่จะไม่ไปศาล เพราะกลัวว่าจะยุ่งยาก กว่าจะโดนบังคับให้จ่ายเงิน หรือกลัวไปต่างๆนาๆ


แต่แท้ที่จริงแล้ว การเลือกไม่ไปศาลนั้นเป็นโทษยิ่งกว่า เพราะหากจำเลยได้รับหมายแล้วไม่ไปตามนัด โจทก์ก็จะสืบฝ่ายเดียว ซึ่งบ่อยครั้งศาลจะพิพากษาให้โจทก์ชนะคดีตามฟ้อง


นั่นก็หมายความว่าโจทก์ฟ้องมาเท่าไร ก็อาจจะได้รับตามนั้น ซึ่งบางครั้งแล้ว ความจริงยอดหนี้อาจจะไม่ถึงตามที่ฟ้อง นั่นก็เป็นผลเสียที่เราไม่ไปศาล


การไปศาลตามนัดเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่ง เพราะหากเราไปศาล ในกรณีที่เราไม่ได้เป็นหนี้ตามที่ถูกฟ้อง เราก็มีโอกาสได้ให้การกับศาล


หรือกรณีที่เราเป็นหนี้จริง เราก็จะได้ใช้โอกาสนี้ไกล่เกลี่ยลดย่อนยอดหนี้และต้นเงิน รวมไปถึงการขอผ่อนชำระด้วย


ซึ่งหลายครั้ง โจทก์ก็มักจะตกลงให้ผ่อนตามยอดที่จำเลยยังพอมีความสามารถผ่อนได้


ตรงกันข้าม ถ้าเราไม่ไปศาลเลย แล้วศาลมีคำพิพากษาออกมา โจทก์ก็มีสิทธิบังคับคดีเอากับจำเลยจากทรัพย์สินที่เป็นของจำเลยมาชำระหนี้ได้ ไม่ว่าเป็นรถ บ้าน เงินในบัญชี เงินเดือน(กรณีเป็นเอกชน) ฯลฯ


*หมายเหตุ บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษาคดี ทนายความ กรุณาสอบถามเพิ่มเติม


**ปรึกษาคดี ปรึกษากฎหมาย ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร

วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

จะฟ้องคดี ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง


สวัสดีครับ

วันนี้ก็ตามชื่อเรื่องเลยครับ ถ้าจะฟ้องคดี เราต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง

คงเป็นคำถามที่ใครหลายๆคนอยากจะรู้ เวลาที่จะจ้างทนายความดำเนินคดีให้

ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก็จะมีดังต่อไปนี้ครับ

1.ค่าทนายความ  ก็คือค่าจ้างให้ทนายความดำเนินการต่างๆแทนเรา เช่น ทำสำนวนคดีฟ้อง ไปศาล คัดถ่ายเอกสาร สืบพยาน เป็นต้น

2.ค่าขึ้นศาล  คือ เงินที่เราต้องจ่ายให้กับศาลเมื่อเราจะนำคดีไปฟ้องที่ศาล ซึ่งปกติแล้วจะเสียในอัตราร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ สมมติเช่น เราจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากมูลหนี้ข้อหาละเมิดจำนวน 100 บาท เราก็ต้องเสียค่าขึ้นศาล 2 บาท

3.ค่าส่งหมาย  ถ้าจะพูดถึงหมายมีหมายอยู่หลายอย่าง แต่ในขั้นตอนฟ้องคดี หมายที่เกี่ยวข้องก็คือ ค่าส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลย เวลาที่เราฟ้องคดีใครก็ตาม ตามกฎหมายกำหนดให้เราต้องส่งสำเนาคำฟ้องไปให้จำเลยที่ถูกฟ้อง วิธีส่งก็คือเจ้าหน้าที่ศาลจะเป็นผู้ไปส่งให้จำเลย ค่าส่งหมายนั้นจะเป็นเงินเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับแต่ละศาลจะกำหนด

นี่ก็เป็นค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่เราต้องเสียเมื่อจะฟ้องคดี ในบางครั้งทนายกับลูกความอาจตกลงเหมาจ่ายทั้งหมดรวมกันก็ได้ หรืออาจมีค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเข้ามา ก็เป็นไปตามที่ทนายความและลูกความจะตกลงกันครับ

*หมายเหตุ บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษาคดี ทนายความ กรุณาสอบถามเพิ่มเติม

**ปรึกษาคดี ปรึกษากฎหมาย ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร

วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ค่าทนายความ VS ค่าขึ้นศาล


สวัสดีครับ

วันนี้ขอพูดถึงเรื่องค่าทนายความ กับค่าขึ้นศาล
สองคำนี้เราจะต้องพบเจอทุกครั้งที่มีการว่าจ้างทนายความดำเนินคดีให้เราครับ

เริ่มด้วยคำว่า "ค่าทนายความ" หรือบางครั้งอาจเรียกว่า ค่าทนาย ค่าวิชาชีพทนาย หรือบางครั้งอาจจะมีคำที่ใช้เรียกอย่างอื่นอีก โดยหลักแล้วความหมายคือ เงินที่เราจ่ายให้กับทนายความเพื่อเป็นค่าดำเนินการต่างๆแทนเราในงานที่เกี่ยวกับคดีความ ซึ่งค่าทนายความนี้ไม่ได้รวมไปถึง ค่าขึ้นศาลแต่อย่างใด

ค่าขึ้นศาล คือ เงินที่เราต้องจ่ายให้กับศาลตามที่กฎหมายกำหนดไว้ กล่าวคือ ในการที่เราจะนำคดีขึ้นสู่ศาลเพื่อฟ้องใครก็ตาม เราต้องเสียเงินให้กับศาลด้วย ซึ่งปกติต้องเสียในอัตราร้อยละ 2 ของทุนทรัพย์ที่เราฟ้อง

*หมายเหตุ บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษาคดี ทนายความ กรุณาสอบถามเพิ่มเติม

**ปรึกษาคดี ปรึกษากฎหมาย ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร