ใครบ้างสามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้
.
ผู้ที่สามารถจะเป็นผู้จัดการมรดกได้นั้น อาจจะเป็นบุคคลที่ถูกระบุไว้ในพินัยกรรม หรือผู้ที่ศาลได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดกก็ได้
.
ผู้จัดการมรดกนั้นสามารถที่จะเป็นใครก็ได้ที่มิได้เป็นบุคคลมีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมาย และศาลเห็นสมควรที่จะให้เป็นผู้จัดการมรดก
.
แม้ผู้ที่จะเป็นผู้จัดการมรดกนั้น อาจจะถูกระบุชื่อไว้ในพินัยกรรมแล้วก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติแล้ว การที่ผู้จัดการมรดกจะติดต่อกับบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์มรดกนั้น หลายครั้งบุคคลอื่นหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องนั้น ก็มักจะไม่แน่ใจว่าพินัยกรรมนั้นถูกต้องหรือไม่ และบุคคลที่ถูกระบุชื่อในพินัยกรรมให้เป็นผู้จัดการมรดก มีสิทธิและหน้าที่ในการจัดการทรัพย์มรดกตามกฎหมายหรือไม่
.
หลายครั้งในการจัดการทรัพย์มรดก บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จึงมักแจ้งให้ผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมหรือทายาทของเจ้ามรดกมีการยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณามีคำสั่งแต่งตั้งผู้จัดการมรดกมาเสียก่อน จึงจะยินยอมดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้
.
แต่บุคคลที่สามารถจะเป็นผู้จัดการมรดกได้นั้นจะต้องบรรลุนิติภาวะแล้วคือมีอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และต้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนหรือผู้ไร้ความสามารถ และจะต้องไม่เป็นบุคคลซึ่งศาลเคยสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลาย
.
ดังนั้น หากกล่าวโดยสรุปแล้ว ผู้จัดการมรดกอาจจะเป็นทายาทผู้มีสิทธิ์รับมรดกก็ได้ หรืออาจจะเป็นบุคคลอื่นที่ไม่มีสิทธิ์รับมรดกก็ได้ แต่บุคคลเหล่านั้นจะต้องไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย และจะต้องเป็นบุคคลซึ่งศาลเห็นสมควรให้เป็นผู้จัดการมรดก จึงจะสามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้
.
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
.
มาตรา ๑๗๑๑ ผู้จัดการมรดกนั้นรวมตลอดทั้งบุคคลที่ตั้งขึ้นโดยพินัยกรรมหรือโดยคำสั่งศาล
.
มาตรา ๑๗๑๒ ผู้จัดการมรดกโดยพินัยกรรมอาจตั้งขึ้นได้
(๑) โดยผู้ทำพินัยกรรมเอง
(๒) โดยบุคคลซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรม ให้เป็นผู้ตั้ง
.
มาตรา ๑๗๑๓ ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
(๑) เมื่อเจ้ามรดกตาย ทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรมได้สูญหายไป หรืออยู่นอกราชอาณาเขต หรือเป็นผู้เยาว์
(๒) เมื่อผู้จัดการมรดกหรือทายาทไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการ หรือในการแบ่งปันมรดก
(๓) เมื่อข้อกำหนดพินัยกรรมซึ่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ไม่มีผลบังคับได้ด้วยประการใด ๆ
การตั้งผู้จัดการมรดกนั้น ถ้ามีข้อกำหนดพินัยกรรมก็ให้ศาลตั้งตามข้อกำหนดพินัยกรรม และถ้าไม่มีข้อกำหนดพินัยกรรม ก็ให้ศาลตั้งเพื่อประโยชน์แก่กองมรดกตามพฤติการณ์และโดยคำนึงถึงเจตนาของเจ้ามรดก แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
.
มาตรา ๑๗๑๕ ผู้ทำพินัยกรรมจะตั้งบุคคลคนเดียวหรือหลายคนให้เป็นผู้จัดการมรดกก็ได้
เว้นแต่จะมีข้อกำหนดไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่น ถ้ามีผู้จัดการมรดกหลายคน แต่ผู้จัดการเหล่านั้นบางคนไม่สามารถ หรือไม่เต็มใจที่จะจัดการ และยังมีผู้จัดการมรดกเหลืออยู่แต่คนเดียว ผู้นั้นมีสิทธิที่จะจัดการมรดกได้โดยลำพัง แต่ถ้ามีผู้จัดการมรดกเหลืออยู่หลายคน ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ผู้จัดการเหล่านั้นแต่ละคนจะจัดการโดยลำพังไม่ได้
.
มาตรา ๑๗๑๘ บุคคลต่อไปนี้จะเป็นผู้จัดการมรดกไม่ได้
(๑) ผู้ซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ
(๒) บุคคลวิกลจริต หรือบุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถ
(๓) บุคคลซึ่งศาลสั่งให้เป็นคนล้มละลาย
.
.
หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม
.
** ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาคดีความ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร
0 Comments:
แสดงความคิดเห็น