พระบรมราโชวาท

ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๓๕

วันจันทร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ตำรวจไม่แจ้งความคืบหน้าคดี ต้องทำยังไง?

 


❗ตำรวจไม่แจ้งความคืบหน้าคดี ต้องทำยังไง?

❓“แจ้งความแล้วเงียบหาย... ตำรวจต้องเป็นฝ่ายแจ้ง หรือเราต้องถามเอง?”

หลายคนเจอเหตุการณ์แบบนี้: มีคดีความเกิดขึ้น แจ้งความไว้แล้ว แต่เวลาผ่านไปเป็นเดือนก็ไม่มีใครติดต่อกลับ หรือบอกว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหน ต้องรอตลอดไปจริงไหม? หรือเรามีสิทธิทำอะไรได้บ้าง?


🟦 กรณีสมมติ

คุณแนน โดนแอบอ้างเอาภาพไปหลอกขายของออนไลน์ มีผู้เสียหายจำนวนมาก เธอรีบไปแจ้งความ แต่เวลาผ่านไป 2 เดือนเต็ม ไม่มีตำรวจติดต่อมาเลย โทรไปก็ได้แต่คำว่า “รอติดตามนะครับ”

คุณแนนสงสัยว่า... ตำรวจมีหน้าที่ต้องแจ้งความคืบหน้าหรือไม่? แล้วถ้าไม่แจ้ง เราจะทำอะไรได้?


⚖️ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

📄 คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 419/2556 ได้ระบุไว้ชัดเจนเรื่อง “การแจ้งผลความคืบหน้าคดี” โดยมีใจความสำคัญว่า:

พนักงานสอบสวนต้องแจ้งความคืบหน้าการดำเนินคดีให้ผู้แจ้งความทราบเป็นหนังสือ ภายในระยะเวลาที่กำหนด ดังนี้

  • ครั้งที่ 1: ภายใน 30 วัน นับจากวันแจ้งความ

  • ครั้งที่ 2: ภายใน 60 วัน นับจากวันที่แจ้งครั้งแรก

  • ครั้งที่ 3: เมื่อสรุปสำนวนและส่งอัยการ

📌 และหากมีการจับกุมหรือออกหมายจับ ก็ต้องแจ้งให้ผู้แจ้งความทราบด้วยเช่นกัน


🔍 วิเคราะห์

แม้คำสั่งตำรวจจะกำหนดให้พนักงานสอบสวนเป็นฝ่ายแจ้งความคืบหน้าให้ผู้แจ้ง แต่ ในทางปฏิบัติกลับไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป หลายครั้งผู้เสียหายต้องเป็นฝ่าย “สอบถามเอง” เพราะตำรวจไม่ได้แจ้งผลให้อัตโนมัติ

📩 ดังนั้น หากผ่านไปแล้ว 30 วันนับจากวันแจ้งความ แต่ยังไม่มีการแจ้งความคืบหน้า ผู้แจ้งสามารถ ทำหนังสือสอบถามความคืบหน้า ไปยังพนักงานสอบสวนโดยตรงได้
(โดยทั่วไป ทนายความจะเป็นผู้ร่างหนังสือให้ เพื่อความชัดเจนและถูกต้องตามขั้นตอน)


สรุป

  • 📄 ตำรวจมีหน้าที่ต้องแจ้งความคืบหน้าคดี ภายใน 30, 60 วัน และเมื่อสรุปสำนวน

  • ✉️ แต่ในทางปฏิบัติ ผู้แจ้งความมักต้องทำหนังสือสอบถามความคืบหน้าเอง

  • ⚖️ การทำหนังสือควรเขียนให้เป็นทางการ และขอให้ตำรวจแจ้งผลกลับเป็นลายลักษณ์อักษร


📝 หมายเหตุ

บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย


🤝 ปรึกษาทนายความ JT Law Firm

หากคุณต้องการร่างหนังสือสอบถามความคืบหน้าคดี 📩 หรือสงสัยว่าคดีของคุณล่าช้าเกินสมควร
ปรึกษาทนายตั้ม JT Law Firm ได้เลย (ฟรีเบื้องต้น!)


📲 ช่องทางติดต่อ


🏷️

📌 #ความคืบหน้าคดี #แจ้งความแล้วเงียบ #ตำรวจต้องแจ้งหรือไม่ #สิทธิผู้เสียหาย #JTlawfirm
📌 #ทนายความเชียงใหม่ #รับว่าความทั่วประเทศ

ยกบ้านให้ลูกคนแรกไปแล้ว ลูกคนหลังยังต้องแบ่งมรดกไหม?

 


ยกบ้านให้ลูกคนแรกไปแล้ว ลูกคนหลังยังต้องแบ่งมรดกไหม?

“ถ้าแม่ยกบ้านให้ลูกคนแรกไปตั้งแต่ตอนหย่า แล้วแม่มีลูกคนที่สองหลังแต่งงานใหม่ ลูกคนที่สองต้องแบ่งมรดกให้ลูกคนแรกอีกหรือไม่?”

คำถามนี้เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัย เพราะไม่แน่ใจว่าการมอบทรัพย์สินก่อนหน้านี้ถือเป็นการแบ่งมรดกไปแล้วหรือไม่ และลูกทุกคนจะมีสิทธิอย่างไรบ้าง


🟦 กรณีสมมติ

คุณหนึ่งมีแม่เป็นข้าราชการ แม่แต่งงานครั้งแรกและมีลูกคนแรก
ต่อมาแม่หย่ากับสามีและยกบ้านให้ลูกคนแรกไปแล้ว
หลังจากนั้นแม่แต่งงานใหม่และมีลูกคนที่สอง คือคุณหนึ่งเอง
เมื่อแม่เสียชีวิต คุณหนึ่งสงสัยว่า “ผมต้องแบ่งมรดกแม่ให้ลูกคนแรกอีกไหม เพราะลูกคนแรกได้รับบ้านไปแล้วตอนหย่า”


⚖️ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

  •  มาตรา ๑๖๒๙  ทายาทโดยธรรมมีหกลำดับเท่านั้น และภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๑๖๓๐ วรรค ๒ แต่ละลำดับมีสิทธิได้รับมรดกก่อนหลังดังต่อไปนี้ คือ

    (๑) ผู้สืบสันดาน



🔍 วิเคราะห์

  • ลูกคนแรกได้รับบ้านไปในช่วงชีวิตแม่ก่อนหย่า แต่การโอนบ้านครั้งนั้นไม่ได้เป็นการแบ่งมรดก

  • ลูกคนแรกยังคงเป็นทายาทตามกฎหมายเช่นเดียวกับลูกคนที่สอง

  • เมื่อแม่เสียชีวิต ทรัพย์สินที่เหลือจะถูกแบ่งตามสัดส่วนตามกฎหมายระหว่างลูกทุกคน

  • หากต้องการให้บ้านที่ยกให้ลูกคนแรกเป็นส่วนหนึ่งของมรดก จะต้องมีการตกลงหรือพินัยกรรมชัดเจน


✅ สรุป

  • ลูกทุกคนเป็นทายาทตามกฎหมาย มีสิทธิรับมรดกเท่าเทียมกัน

  • การยกบ้านให้ลูกคนแรกในช่วงชีวิตแม่ ไม่ถือเป็นการแบ่งมรดก

  • ทรัพย์สินที่เหลือหลังแม่เสียชีวิต ต้องแบ่งกันตามกฎหมาย

  • ควรทำพินัยกรรมหรือข้อตกลงให้ชัดเจนหากต้องการแบ่งทรัพย์สินล่วงหน้า


⚠️ หมายเหตุ

บทความนี้เป็นความเห็นทางกฎหมายเบื้องต้นเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่แท้จริง หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย


📩 ปรึกษาทนายตั้ม จาก JT Law Firm เราช่วยดูแลตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงการยื่นคำร้องศาลให้เรียบร้อย
📩 ติดต่อผ่าน LINE, Facebook Page หรือโทรศัพท์


 #ผู้จัดการมรดก #กฎหมายมรดก #ทายาทมรดก #ทนายความ #JTlawfirm
#ทนายความเชียงใหม่ #รับว่าความทั่วประเทศ

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จะติดคุกอย่างเดียวใช่ไหม?

 


ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ จะติดคุกอย่างเดียวใช่ไหม?

📌 “โดนศาลปรับ 50,000 แต่ไม่มีเงินจ่าย แบบนี้ต้องเข้าคุกเลยใช่ไหม?”

หลายคนคิดว่าถ้าศาลสั่งปรับ แล้วไม่มีเงินจ่าย จะต้องติดคุกสถานเดียว แต่จริงๆ แล้ว กฎหมายยังมีทางออกอื่นอยู่!


🟦 กรณีสมมติ

นายบอยถูกตำรวจจับดำเนินคดี และศาลพิพากษาให้ปรับ 50,000 บาท
แต่บอยไม่มีเงินติดตัว ไม่มีใครช่วยจ่ายค่าปรับให้ด้วย
เขาถามทนายว่า “งั้นผมต้องติดคุกเลยใช่ไหม?”
ทนายยิ้มเล็กๆ แล้วตอบว่า “ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นนะ ยังมีทางเลือกอื่นอยู่”


📘 ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ประมวลกฎหมายอาญา 

มาตรา 30

"ในการกักขังแทนค่าปรับ ให้ถืออัตราห้าร้อยบาทต่อหนึ่งวัน..."

มาตรา 30/1

"ในกรณีที่ศาลพิพากษาปรับ ผู้ต้องโทษปรับซึ่งมิใช่นิติบุคคลและไม่มีเงินชำระค่าปรับอาจยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นที่พิพากษาคดีเพื่อขอทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ..."


🔍 วิเคราะห์

ในกรณีที่ถูกศาลลงโทษ ปรับ แต่ไม่มีเงินจ่าย มี 3 ทางเลือกหลักๆ คือ:

  1. ขอผ่อนจ่ายค่าปรับ – หากศาลเห็นว่าไม่หลีกเลี่ยงการชำระ และมีเจตนาชำระจริง

  2. ขอทำงานบริการสังคมแทนค่าปรับ – ต้องยินยอม และศาลพิจารณาอนุญาต

  3. ติดคุกแทนค่าปรับ – กรณีไม่มีทางเลือกหรือศาลพิจารณาไม่อนุญาตแนวทางอื่น

การเข้าเรือนจำจึงไม่ใช่ทางเลือกแรกเสมอไป หากผู้ต้องโทษมีท่าทีสำนึกผิด และประพฤติดี ศาลมีอำนาจใช้วิธีอื่นเพื่อบรรเทาผลกระทบ


📝 สรุป

✅ ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ = ยังไม่ต้องติดคุกทันที
✅ ขอศาลพิจารณาผ่อนจ่ายได้ หรือขอทำงานบริการสังคมแทน
❌ ติดคุกทันที หากศาลไม่อนุญาตทางเลือกอื่น


📌 หมายเหตุ

บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย


🤝 ปรึกษาทนายตั้ม จาก JT Law Firm

หากคุณหรือคนใกล้ตัวต้องโทษถูกปรับ แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ 💬 ปรึกษาทนายตั้ม เราช่วยดำเนินเรื่องยื่นคำร้องขอศาลพิจารณาทำงานแทนค่าปรับได้อย่างถูกต้อง
📩 ติดต่อผ่าน LINE หรือ www.jtlfirm.com


🏷️ #ค่าปรับ #ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ #ติดคุกแทนค่าปรับ #บริการสังคมแทนค่าปรับ #กฎหมายอาญา #JTlawfirm #ทนายความเชียงใหม่ #รับว่าความทั่วประเทศ

เป็นพี่น้องกัน แต่คนหนึ่งขอเป็นผู้จัดการมรดกฝ่ายเดียว ทำได้ไหม?



“เป็นพี่น้องกัน แต่คนหนึ่งขอเป็นผู้จัดการมรดกฝ่ายเดียว ทำได้ไหม?”

📌 “เป็นพี่น้องท้องเดียวกัน แต่ทำไมไม่บอกกันก่อน แอบไปยื่นศาลขอเป็นผู้จัดการมรดกคนเดียวได้ด้วยหรือ?”
คำถามที่เกิดขึ้นบ่อยในครอบครัว เมื่อมีคนใดคนหนึ่งรีบจัดการมรดกโดยไม่ปรึกษาญาติพี่น้องคนอื่น

กรณีสมมติ

หลังจากคุณพ่อเสียชีวิตโดยไม่มีพินัยกรรม พี่ชายคนโตรีบไปยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกต่อศาล โดยไม่แจ้งให้น้อง ๆ รู้เลย
จนวันหนึ่ง น้องชายคนเล็กได้รับหมายศาลว่ามีการขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้ว!

น้องชายไม่พอใจ บอกว่า “เป็นลูกเหมือนกัน ทำไมไปทำเรื่องฝ่ายเดียว?”

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713

    มาตรา 1713  ทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือพนักงานอัยการจะร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกก็ได้...

วิเคราะห์

ในทางปฏิบัติ ทายาทคนใดคนหนึ่งสามารถยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกฝ่ายเดียวได้
แต่ศาลจะพิจารณาว่ามีการ “แจ้งทายาทอื่นหรือไม่” และ “มีการคัดค้านหรือไม่”

หากทายาทอื่นไม่เห็นด้วย ศาลจะนัดไต่สวน และอาจพิจารณาแต่งตั้งคนกลาง หรือผู้ที่เหมาะสมที่สุดให้เป็นผู้จัดการมรดกแทน

สรุป

✅ ทายาทคนหนึ่งสามารถยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกฝ่ายเดียวได้
❌ แต่ต้องให้ศาลแจ้งหมายถึงทายาทอื่น เพื่อให้แสดงความเห็นหรือคัดค้าน
✅ หากมีการคัดค้าน ศาลจะไต่สวนและชี้ขาดตามความเหมาะสม


หมายเหตุ

บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย


📲 หากคุณกำลังมีข้อขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

ปรึกษาทนายตั้ม JT Law Firm
เราช่วยวิเคราะห์สิทธิของคุณ และดำเนินคดีแทนคุณได้ทั้งฝ่ายผู้ร้องและผู้คัดค้าน
📩 ติดต่อผ่าน LINE, Facebook Page หรือโทรศัพท์


#พินัยกรรม #ผู้จัดการมรดก #แต่งตั้งผู้จัดการมรดก #กฎหมายมรดก #คดีมรดก #ทนายความ #ทนายเชียงใหม่ #JTlawfirm #รับว่าความทั่วประเทศ

วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2568

พินัยกรรมที่เขียนเอง ไม่มีพยาน ใช้ได้หรือไม่?

 




“พินัยกรรมที่เขียนเอง ไม่มีพยาน ใช้ได้หรือไม่?”


📌 “พินัยกรรมเขียนเอง ไม่มีพยานเลย… แบบนี้จะมีผลทางกฎหมายไหม?”

หลายคนสงสัยว่าหากไม่มีพยานร่วมเซ็น พินัยกรรมที่ญาติทิ้งไว้จะยังใช้ได้หรือไม่?


กรณีสมมติ

หลังคุณยายสายสมรเสียชีวิต ลูกหลานเข้ามาจัดการทรัพย์สิน ก็พบกระดาษแผ่นหนึ่งวางในกล่องเครื่องประดับ เขียนว่า


“ยกทรัพย์สินทั้งหมดให้หลานป่าน เพราะดูแลยายตลอด ไม่ต้องแบ่งใคร”


เขียนด้วยลายมือคุณยายเอง ลงชื่อ พร้อมวันที่ครบถ้วน

แต่ลูกชายคนโตลุกขึ้นโวยว่า “แบบนี้ไม่ได้ ยายเขียนคนเดียว ไม่มีใครรู้เห็น ถือว่าโมฆะ!”


หลานป่านเริ่มวิตก… ถ้ายายยกให้จริง แต่ไม่มีพยาน พินัยกรรมนี้จะมีผลไหม?



ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1657
     พินัยกรรมนั้น จะทำเป็นเอกสารเขียนเองทั้งฉบับก็ได้ กล่าวคือผู้ทำพินัยกรรมต้องเขียนด้วยมือตนเองซึ่งข้อความทั้งหมด วัน เดือน ปี และลายมือชื่อของตน



หากครบทั้ง 3 ข้อนี้ พินัยกรรมจะมีผลใช้ได้ตามกฎหมาย แม้ไม่มีพยานรู้เห็น



คำพิพากษาศาลฎีกา

  • คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4043/2534
     ผู้ตายเป็นผู้เขียนพินัยกรรมด้วยลายมือตนเองทั้งฉบับพินัยกรรมจึงสมบูรณ์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1657 โดยหาจำต้องมีพยานพินัยกรรมไม่




วิเคราะห์

แม้พินัยกรรมจะไม่มีพยาน แต่ถ้าผู้ทำเขียนเองทุกคำ มีลายมือชื่อ และวันที่ครบถ้วน ถือว่าถูกต้องตามกฎหมาย

หลานป่านจึงสามารถใช้พินัยกรรมนี้ในการขอแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก และจัดการทรัพย์สินตามเจตนาของคุณยายได้



สรุป

✅ พินัยกรรมที่ผู้ตายเขียนด้วยลายมือของตนเองทั้งหมด ลงชื่อ และระบุวัน เดือน ปีที่ทำครบถ้วน แม้ไม่มีพยานก็ใช้ได้ตามกฎหมาย

❌ หากขาดข้อใดข้อหนึ่ง จะกลายเป็นพินัยกรรมโมฆะทันที





หมายเหตุ

บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย


📲 หากคุณพบพินัยกรรมของญาติ แล้วไม่แน่ใจว่าใช้ได้หรือไม่


ปรึกษาทนายความ JT Law Firm

เราช่วยดูแลตั้งแต่การตรวจสอบพินัยกรรม ไปจนถึงยื่นคำร้องศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดกให้เรียบร้อย

📩 ติดต่อผ่าน LINE, Facebook Page หรือโทรศัพท์

#พินัยกรรม #ผู้จัดการมรดก #แต่งตั้งผู้จัดการมรดก #กฎหมายมรดก #คดีมรดก #ทนายความ #ทนายเชียงใหม่ #JTlawfirm #รับว่าความทั่วประเทศ

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 5/5 : ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และคำแนะนำจากทนายความ

 


🟦 ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 5/5 : ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย และคำแนะนำจากทนายความ

เมื่อจัดการมรดกโดยไม่มีความรู้

“คิดว่าไม่เป็นไร เลยแบ่งกันเองในครอบครัว...”

หลายครอบครัวตัดสินใจ “ไม่ยื่นศาล” เพราะเห็นว่าเป็นพี่น้องกัน คงไม่มีปัญหา
แต่พอเวลาผ่านไป กลับเกิดข้อขัดแย้งแบบที่ไม่คาดคิด เช่น

▪ พี่ขายที่ดินไปโดยไม่บอก
▪ น้องถอนเงินจากบัญชีไปใช้ก่อน
▪ ลูกของภรรยาอีกคนโผล่มาเรียกร้องสิทธิ

ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะ ไม่มีผู้จัดการมรดกที่ศาลแต่งตั้งอย่างถูกต้อง


❗ ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยที่สุด

1. คิดว่าทายาทแบ่งกันเองได้เลย

❌ แม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน การโอนที่ดินหรือเบิกเงินจากธนาคาร
ควรมีคำสั่งศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

2. ไม่รู้ว่ามีหนี้สินของผู้ตาย

❌ บางคนรีบโอนทรัพย์แต่ลืมตรวจสอบหนี้
ทำให้ทายาทอาจต้องรับผิดชอบหนี้แทนโดยไม่ตั้งใจ

3. แบ่งมรดกโดยไม่ยึดตามพินัยกรรม

❌ หากมีพินัยกรรมแต่ไม่นำมาพิจารณา ศาลอาจเพิกถอนการแบ่งได้
และอาจถูกฟ้องร้องได้

4. ไม่จัดทำบัญชีทรัพย์สิน

❌ ทำให้เกิดข้อสงสัย ไม่โปร่งใส ทายาทบางคนอาจร้องศาลขอเปลี่ยนผู้จัดการมรดกได้


💡 คำแนะนำจาก JT Law Firm

🔹 ให้พูดคุยกันในครอบครัวก่อนทุกครั้ง
🔹 ขอคำปรึกษาทนายเพื่อประเมินทรัพย์สินและขั้นตอนที่ต้องทำ
🔹 อย่ารอให้มีปัญหา แล้วค่อยมาจัดการย้อนหลัง เพราะอาจสายเกินไป


📌 สรุปง่าย ๆ

“ผู้จัดการมรดก” ไม่ใช่ตำแหน่งเพื่อความสะดวก
แต่คือหน้าที่ที่ต้องทำอย่างรอบคอบ โปร่งใส และถูกต้องตามกฎหมาย

หากทำผิดพลาด อาจเสียทั้งเวลา ความสัมพันธ์ และทรัพย์มรดก


หากคุณต้องการทีมที่เข้าใจกฎหมาย และพร้อมดูแลแบบมืออาชีพ
📲 JT Law Firm ยินดีดูแลทุกขั้นตอนให้
ตั้งแต่ยื่นศาล รวบรวมทรัพย์ ไปจนถึงแบ่งมรดกให้เสร็จ

📩 ติดต่อเราที่ LINE หรือ โทรศัพท์


📚 จบซีรีส์: เข้าใจเรื่องผู้จัดการมรดก ใน 5 ตอนจบ
หากคุณพลาดตอนก่อนหน้า ดูย้อนหลังได้ที่โพสต์ก่อน ๆ

#ผู้จัดการมรดก #ข้อผิดพลาดจัดการมรดก #แบ่งมรดกผิดกฎหมาย #ทนายความมรดก #JTlawfirm #ซีรีส์กฎหมาย #กฎหมายเข้าใจง่าย

.

หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม

ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 4/5 : หน้าที่ของผู้จัดการมรดก มีอะไรบ้าง?

 


🟦 ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 4/5 : หน้าที่ของผู้จัดการมรดก มีอะไรบ้าง?

“นึกว่าแค่ไปศาลแล้วก็จบ... ที่ไหนได้ ยังต้องไปเคลียร์หนี้ ขายที่ดิน รายงานศาลอีก?”

หลายคนเข้าใจว่าเป็น “ผู้จัดการมรดก” แล้วแค่แบ่งทรัพย์ก็พอ
แต่ความจริงแล้ว มีหน้าที่ตามกฎหมายหลายอย่างที่ต้องทำให้ครบ


🧑‍⚖️ หน้าที่ของผู้จัดการมรดก ตามกฎหมายมีอะไรบ้าง?

ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1715 - 1733
ผู้จัดการมรดกมี หน้าที่โดยตรง ดังนี้:


✅ 1. รวบรวมและดูแลทรัพย์มรดกทั้งหมด

รวมถึงบัญชีธนาคาร ที่ดิน บ้าน รถยนต์ และทรัพย์อื่น ๆ
เพื่อเตรียมแบ่งให้ทายาท หรือใช้ชำระหนี้

📌 เช่น ตรวจสอบยอดเงินในบัญชี / ขอสืบทรัพย์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


✅ 2. ชำระหนี้สินของผู้ตาย

ก่อนจะแบ่งทรัพย์ให้ทายาท ต้องจัดการหนี้ของผู้ตายให้เรียบร้อยก่อน
ทั้งหนี้บุคคลอื่น และภาระภาษี (เช่น ภาษีที่ดิน ภาษีมรดก ถ้ามี)

❗ ถ้าไม่ชำระหนี้ก่อนแบ่ง อาจทำให้ทายาทต้องรับผิดภายหลังได้


✅ 3. แจกแจงและแบ่งทรัพย์สินให้ทายาทตามสิทธิ

ไม่ว่าจะตามกฎหมาย หรือพินัยกรรม
ผู้จัดการมรดกต้องจัดแบ่งให้ชัดเจน เป็นธรรม และโปร่งใส

📌 ถ้าแบ่งไม่ถูกต้อง ทายาทมีสิทธิร้องต่อศาลให้เพิกถอนได้


✅ 4. ทำบัญชีทรัพย์มรดก และรายงานต่อศาล (กรณีศาลสั่ง)

บางกรณีศาลอาจกำหนดให้ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำบัญชีทรัพย์สิน พร้อมสรุปรายการว่าทรัพย์ถูกจัดการอย่างไรบ้าง

✅ ยิ่งมีเอกสารชัดเจน ยิ่งป้องกันปัญหาในภายหลัง


❗ ถ้าไม่ทำหน้าที่ให้ครบ จะเกิดอะไรขึ้น?

  • ทายาทสามารถร้องศาลถอดถอนผู้จัดการมรดกได้

  • ศาลอาจมีคำสั่งให้ตั้งคนใหม่แทน


📌 สรุปง่าย ๆ

ผู้จัดการมรดกไม่ใช่แค่ “ถือชื่อ” แต่มีหน้าที่ตามกฎหมาย


หากคุณเพิ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดก
หรือกำลังจะรับตำแหน่งนี้ แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะจัดการถูกต้องไหม

📲 JT Law Firm ให้คำปรึกษา และแนะนำการจัดการมรดก
ทั้งการรวบรวมทรัพย์ ตรวจสอบหนี้ แบ่งทรัพย์ 

📩 ติดต่อเราได้ที่ LINE หรือ โทรศัพท์

.

หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม

ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 3/5 : ขั้นตอนยื่นศาลขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ต้องทำอย่างไร?




 

🟦 ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 3/5 : ขั้นตอนยื่นศาลขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก ต้องทำอย่างไร?

“โอนบ้านไม่ได้...ถอนเงินบัญชีก็ไม่ได้”

เพราะไม่มีใครยื่นขอ “แต่งตั้งผู้จัดการมรดก” ต่อศาล
หลายครอบครัวต้องปล่อยทรัพย์สินค้างอยู่นานเป็นปี ทั้งที่สามารถดำเนินการได้ทันที

ในตอนนี้ JT Law Firm จะมาแนะนำ ขั้นตอนยื่นศาลแบบเข้าใจง่าย
เพื่อให้คุณสามารถเตรียมตัวได้ถูกต้องและไม่เสียเวลาโดยไม่จำเป็น


✅ ขั้นตอนยื่นศาลแต่งตั้งผู้จัดการมรดก

1. รวบรวมเอกสารหลัก ๆ ดังนี้:

  • มรณบัตรของผู้เสียชีวิต

  • ทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต

  • ทะเบียนบ้าน/บัตรประชาชนของผู้ยื่นคำร้อง

  • ทะเบียนสมรส/ใบเกิด/หลักฐานความเป็นทายาท

  • รายการทรัพย์สิน เช่น โฉนด, สมุดบัญชี, รถยนต์

  • หนังสือยินยอมจากทายาทคนอื่น (ถ้ามี)

2. จัดทำคำร้องต่อศาล

โดยให้ทนายความช่วยร่างคำร้องตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด

3. ยื่นคำร้องต่อศาลในพื้นที่ที่ผู้ตายมีภูมิลำเนา

ตัวอย่าง: หากผู้ตายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านจังหวัดเชียงใหม่ ก็ยื่นต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่

4. รอศาลนัดวันพิจารณา

ศาลจะนัดไต่สวนคำร้อง
ผู้ร้องและพยานต้องไปแสดงตนต่อศาลในวันนัด

5. ศาลมีคำสั่งแต่งตั้ง

หากไม่มีข้อโต้แย้งจากทายาท ศาลจะมีคำสั่งแต่งตั้ง

จากนั้นนำคำสั่งศาลไปใช้กับกรมที่ดิน ธนาคาร ฯลฯ ได้เลย


🕐 ใช้เวลานานไหม?

  • ถ้าเอกสารครบ + ทายาทไม่ขัดแย้งกัน

✅ ศาลอาจมีคำสั่งได้ภายใน 30–60 วัน

  • ถ้ามีการคัดค้าน หรือขาดเอกสารสำคัญ

❗ ต้องนัดพิจารณาเพิ่ม อาจใช้เวลานานขึ้น


📌 เคล็ดลับจากทนาย

✅ เตรียมเอกสารให้ครบ
✅ พูดคุยตกลงกันในครอบครัวก่อนยื่นศาล
✅ ให้ทนายความช่วยดูแลเอกสารและดำเนินการทั้งหมด จะลดความยุ่งยากได้มาก


หากคุณต้องการความช่วยเหลือเรื่องการยื่นคำร้อง
📲 JT Law Firm พร้อมให้คำปรึกษา และดำเนินการให้ตั้งแต่ต้นจนจบ
ไม่ต้องไปศาลเองหลายรอบ

📩 ติดต่อผ่าน LINE หรือ www.jtlfirm.com

.

หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม

ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 2/5 : ใครบ้างที่สามารถเป็น “ผู้จัดการมรดก” ได้?






🟦 ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 2/5 : ใครบ้างที่สามารถเป็น “ผู้จัดการมรดก” ได้?

“เราน่าจะให้แม่เป็นคนจัดการมรดกนะ”
“แต่แม่อายุเยอะแล้ว ให้พี่ชายเราดีกว่าไหม?”

หลังมีคนในครอบครัวเสียชีวิต หลายบ้านเริ่มถกกันว่า
ใครเหมาะสมจะเป็นคนจัดการเรื่องมรดก

คำถามนี้ตอบได้ด้วยกฎหมายครับ
เพราะ การเป็นผู้จัดการมรดกไม่ใช่แค่ใครก็เป็นได้
ต้องมีคุณสมบัติตามที่ศาลเห็นว่าเหมาะสม และบางกรณีต้องได้รับความยินยอมจากทายาทคนอื่น


✅ ใครบ้างที่เป็น “ผู้จัดการมรดก” ได้?

🔹 1. บุคคลที่ผู้ตายระบุไว้ในพินัยกรรม
ถ้ามีการทำพินัยกรรมไว้ และระบุชื่อใครไว้ชัดเจน
ศาลจะนำมาพิจารณาประกอบ

🔹 2. ทายาทโดยธรรม
เช่น คู่สมรส บุตร บิดามารดา พี่น้อง
หากไม่มีพินัยกรรมใด ๆ ทายาทสามารถยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกได้
แต่ควรมี หนังสือยินยอมจากทายาทคนอื่น เพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้แย้งในศาล

🔹 3. บุคคลอื่นที่ศาลเห็นสมควรแต่งตั้ง
เช่น บุคคลอื่นที่ทายาททุกคนไว้วางใจ
ในบางกรณี ศาลอาจพิจารณาแต่งตั้งบุคคลมากกว่า ๑ คน ร่วมกันเป็นผู้จัดการมรดกได้


🧑‍⚖️ ศาลพิจารณาจากอะไร?

  • ความสัมพันธ์กับผู้ตาย

  • ความเหมาะสม ไม่เป็นบุคคลต้องห้ามตามกฎหมาย

  • ความสามารถในการจัดการ

  • ความสมัครใจของทายาท

  • การยินยอมจากทายาทอื่น (เพื่อป้องกันข้อโต้แย้ง)


❗ ข้อควรระวัง

บางกรณีที่ทายาทไม่ยอมลงชื่อยินยอม และคัดค้านการขอแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ศาลจะใช้ดุลยพินิจเลือกว่าจะแต่งตั้งบุคคลใดเป็นผู้จัดการมรดก หรือให้เป็นร่วมกัน
ดังนั้น การพูดคุยและตกลงกันในครอบครัวก่อนยื่นศาล เป็นสิ่งที่สำคัญ


📌 สรุปง่าย ๆ

“ผู้จัดการมรดก” เป็นใครก็ได้
ขอเพียง…
✅ ศาลเห็นว่าเหมาะสม
✅ มีความยินยอมจากทายาทส่วนใหญ่
✅ สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสุจริตและโปร่งใส


หากคุณกำลังวางแผนแต่งตั้งผู้จัดการมรดก
📲 ปรึกษาทนายความ JT Law Firm
เราช่วยดูแลตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไปจนถึงการยื่นคำร้องศาลให้เรียบร้อย

📩 ติดต่อผ่าน LINE หรือ www.jtlfirm.com


ตอนต่อไป: ตอนที่ 3 – ขั้นตอนยื่นศาลขอผู้จัดการมรดก ต้องทำอย่างไร?
อย่าลืมติดตามนะครับ 😊

#ผู้จัดการมรดก #แต่งตั้งผู้จัดการมรดก #กฎหมายมรดก #ทนายความ #JTlawfirm

.

หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 1/5 : ผู้จัดการมรดกคือใคร? ทำไมต้องมี?

 

🟦 ผู้จัดการมรดก ตอนที่ 1/5 : ผู้จัดการมรดกคือใคร? ทำไมต้องมี?

“นาย A เสียแบบไม่ได้ตั้งตัว...แล้วบ้านกับเงินในบัญชีจะทำยังไง?”

คำถามนี้เกิดขึ้นจริงในหลายครอบครัว
โดยเฉพาะเวลาที่ไม่มีพินัยกรรม และทุกคนในบ้านไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน

หลังการเสียชีวิตของคนในครอบครัว

ทรัพย์บางอย่างก็สามารถโอนหรือแบ่งได้เลย
แต่บางครั้งก็ไม่สามารถโอนหรือแบ่งได้ เพราะยังไม่มี

"ผู้จัดการมรดก

เพราะตามกฎหมาย ต้องมี “ผู้จัดการมรดก” ที่ศาลแต่งตั้ง จึงจะสามารถทำการโอนทรัพย์มรดกได้


👨‍⚖️ ผู้จัดการมรดกคือใคร?

ผู้จัดการมรดก คือ

คนที่มีอำนาจตามกฎหมายในการจัดการทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต
ตั้งแต่ขั้นตอน

  • รวบรวมทรัพย์

  • ชำระหนี้

  • จัดแบ่งทรัพย์ให้กับทายาทตามสิทธิ

  • รายงานต่อศาลกรณีจำเป็น

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง :
📚 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1711 - 1733


❗ ถ้าไม่มีผู้จัดการมรดกล่ะ?

✅ โอนบ้าน-ที่ดินไม่ได้ (กรณีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องมีผู้จัดการมรดกมาจัดการ)
✅ เบิกเงินในบัญชีธนาคารไม่ได้
✅ ขายทรัพย์สินไม่ได้
✅ หนี้ค้างคา ทายาทไม่กล้าชำระ

ผลคือ เกิดปัญหาขัดแย้งในครอบครัว
และบางครั้งก็พาให้ความสัมพันธ์พัง ทั้งที่ตั้งใจจะจัดการกันด้วยดี


📌 สรุปง่าย ๆ

ผู้จัดการมรดก = คนกลางที่จัดการทรัพย์ของผู้ตาย
ไม่ใช่คนที่จะได้ทรัพย์มากกว่าใคร แต่เป็นผู้ดำเนินการให้ทุกอย่าง “ถูกต้องตามกฎหมาย”


หากคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
📲 ทักมาปรึกษากับทนายความได้เลยครับ
เราช่วยตั้งแต่การเตรียมเอกสาร ไปจนถึงขั้นตอนในศาล


ติดตามตอนต่อไป: ตอนที่ 2 – ใครบ้างที่สามารถเป็นผู้จัดการมรดกได้?
อย่าลืมกดติดตามเพจไว้เลยครับ 😊

#ผู้จัดการมรดก #มรดก #กฎหมายมรดก #แบ่งมรดก #JTlawfirm #ทนายความ

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

หน้าที่ผู้จัดการมรดก


 หน้าที่ผู้จัดการมรดก

.

  ในที่นี้คำว่าผู้จัดการมรดก จะหมายความถึง ผู้จัดการมรดกที่ศาลได้มีคำสั่งแต่งตั้งขึ้น

.

  โดยผู้จัดการมรดกต้องเริ่มทำหน้าที่ตั้งแต่วันที่ศาลได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการมรดก หมายความว่านับแต่วันที่ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่ง ก็ต้องเริ่มทำหน้าที่แล้ว

.

  หน้าที่ของผู้จัดการมรดก ได้แก่

  จัดทำบัญชีทรัพย์มรดก ในที่นี้หมายถึง การจัดทำบัญชีสิ่งซึ่งเป็นทรัพย์สิน และหนี้สิน ของเจ้ามรดกในขณะที่ถึงแก่ความตาย

  สืบหาตัวผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับกองมรดก ในที่นี้หมายถึง ทายาทผู้มีสิทธิรับทรัยพ์มรดก และบุคคลอื่นๆที่มีส่วนได้เสียในกองมรดกนั้นด้วย เช่น เจ้าหนี้ เป็นต้น

  ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้กองมรดก ในที่นี้หมายถึง การเอาทรัพย์สินในกองมรดกชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ของผู้ตาย

  แบ่งปันทรัพย์มรดก หมายถึง การแบ่งสันปันส่วนทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิได้รับมรดกตามส่วนพินัยกรรม หรือตามสัดส่วนทางกฎหมาย

 

.

 

.

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

.

  มาตรา ๑๗๑๖  หน้าที่ผู้จัดการมรดกที่ศาลตั้ง ให้เริ่มนับแต่วันที่ได้ฟังหรือถือว่าได้ฟังคำสั่งศาลแล้ว

.

  มาตรา ๑๗๑๙  ผู้จัดการมรดกมีสิทธิและหน้าที่ที่จะทำการอันจำเป็น เพื่อให้การเป็นไปตามคำสั่งแจ้งชัดหรือโดยปริยายแห่งพินัยกรรม และเพื่อจัดการมรดกโดยทั่วไป หรือเพื่อแบ่งปันทรัพย์มรดก

.

  มาตรา ๑๗๒๓  ผู้จัดการมรดกต้องจัดการโดยตนเอง เว้นแต่จะทำการโดยตัวแทนได้ตามอำนาจที่ให้ไว้ชัดแจ้งหรือโดยปริยายในพินัยกรรม หรือโดยคำสั่งศาล หรือในพฤติการณ์เพื่อประโยชน์แก่กองมรดก

.

  มาตรา ๑๗๒๕  ผู้จัดการมรดกต้องสืบหาโดยสมควรซึ่งตัวผู้มีส่วนได้เสียและแจ้งไปให้ทราบถึงข้อกำหนดพินัยกรรมที่เกี่ยวกับผู้มีส่วนได้เสียนั้นภายในเวลาอันสมควร

.

  มาตรา ๑๗๒๘  ผู้จัดการมรดกต้องลงมือจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกภายในสิบห้าวัน

(๑) นับแต่เจ้ามรดกตาย ถ้าในขณะนั้นผู้จัดการมรดกได้รู้ถึงการตั้งแต่งตามพินัยกรรมที่มอบหมายไว้แก่ตน หรือ

(๒) นับแต่วันที่เริ่มหน้าที่ผู้จัดการมรดกตามมาตรา ๑๗๒๖ ในกรณีที่ศาลตั้งเป็นผู้จัดการมรดก หรือ

(๓) นับแต่วันที่ผู้จัดการมรดกรับเป็นผู้จัดการมรดกในกรณีอื่น

.

  มาตรา ๑๗๒๙  ผู้จัดการมรดกต้องจัดทำบัญชีทรัพย์มรดกให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือนนับแต่เวลาที่ระบุไว้ในมาตรา ๑๗๒๘ แต่กำหนดเวลานี้ เมื่อผู้จัดการมรดกร้องขอก่อนสิ้นกำหนดเวลาหนึ่งเดือน ศาลจะอนุญาตให้ขยายต่อไปอีกก็ได้

  บัญชีนั้นต้องทำต่อหน้าพยานอย่างน้อยสองคน ซึ่งต้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกนั้นด้วย

  บุคคลซึ่งจะเป็นพยานในการทำพินัยกรรมไม่ได้ตามมาตรา ๑๖๗๐ จะเป็นพยานในการทำบัญชีใด ๆ ที่ต้องทำขึ้นตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ไม่ได้

.

.

หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม

.

** ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาคดีความ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร