คดีลักทรัพย์ที่ยอมความและถอนคำร้องทุกข์ได้
.
คดีลักทรัพย์ที่ยอมความและถอนคำร้องทุกข์ได้
.
ปกติแล้วคดีอาญาจะแบ่งเป็นสองประเภท คือความผิดต่อส่วนตัว และความผิดที่เป็นอาญาแผ่นดิน ซึ่งในที่นี้ จะพูดถึงการดำเนินคดีอาญาโดยการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน ในคดีความผิดต่อส่วนตัว หากผู้เสียหายมีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว และต่อมาภายหลังมีความประสงค์จะยอมความหรือถอนคำร้องทุกข์ ก็สามารถแสดงเจตนายอมความหรือถอนคำร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้
แต่หากเป็นคดีอาญาที่เป็นความผิดต่อแผ่นดิน หากมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวนไปแล้ว แม้ภายหลังผู้ร้องทุกข์จะมีความประสงค์ยอมความหรือมีความประสงค์จะถอนคำร้องทุกข์ ก็ไม่อาจทำได้ หมายความว่า คดีอาญาในความผิดต่อแผ่นดินนั้น ภายหลังหลังจากที่มีการร้องทุกข์ดำเนินคดีไปแล้ว จะต้องมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนทางกฎหมายจนกว่าคดีจะถึงที่สุดส่วนข้อเท็จจริงที่ผู้เสียหายไม่มีความประสงค์จะดำเนินคดีต่อไปแล้วนั้น ก็จะเป็นข้อเท็จจริงส่วนหนึ่งที่จะใช้ประกอบเป็นเหตุบรรเทาโทษ
แต่คดีลักทรัพย์บางกรณีที่แม้จะเป็นอาญาแผ่นดินก็ยังสามารถยอมความ และถอนคำร้องทุกข์ได้ ถ้าหากเขาเงื่อนไขตามข้อกฎหมาย นั่นก็คือถ้าความผิดฐานลักทรัพย์ดังกล่าวเป็นกรณีที่พ่อแม่กระทำต่อลูก หรือลูกกระทำต่อพ่อแม่ หรือพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกระทำต่อกัน ก็เป็นคดีลักทรัพย์อาญาแผ่นดินที่สามารถยอมความกันได้
***********
.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1750/2568
.
ความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์ตาม ป.อ. มาตรา 335 วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นความผิดที่ระบุไว้ใน ป.อ. มาตรา 71 วรรคสอง บัญญัติว่า ความผิดดังกล่าวถ้าเป็นการกระทำที่ผู้สืบสันดานกระทำต่อผู้บุพการี แม้กฎหมายมิได้บัญญัติให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ก็ให้เป็นความผิดอันยอมความได้ แม้ศาลชั้นต้นจะพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 มีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 336 ทวิ มาด้วย แต่มาตรา 336 ทวิ เป็นบทบัญญัติถึงเหตุที่จะทำให้ผู้กระทำความผิดอาญา มาตรา 335 ต้องระวางโทษหนักขึ้นกว่าที่บัญญัติไว้ในมาตรานั้น ๆ กึ่งหนึ่ง หาใช่เป็นความผิดอีกบทหนึ่งต่างหากจากบทมาตราดังกล่าวไม่ การกระทำความผิดของจำเลยที่ 1 จึงเข้าหลักเกณฑ์ตาม ป.อ. มาตรา 71 วรรคสอง แล้ว เมื่อผู้เสียหายขอถอนคำร้องทุกข์ในส่วนข้อหาร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะสำหรับจำเลยที่ 1 แล้ว สิทธิการนำคดีอาญาในความผิดฐานดังกล่าวมาฟ้องจำเลยที่ 1 ย่อมเป็นอันระงับไป ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 39 (2) และการที่ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ย่อมเป็นผลให้คำขอในส่วนแพ่งสำหรับความผิดฐานร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะที่โจทก์ขอให้จำเลยที่ 1 ร่วมกันคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนแก่ผู้เสียหาย 950 บาท ตกไปด้วย แม้จำเลยที่ 1 มิได้หยิบยกปัญหาดังกล่าวขึ้นฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาย่อมมีอำนาจวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
.
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
.
ประมวลกฎหมายอาญา
.
มาตรา ๗๑ ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๓๓๔ ถึงมาตรา ๓๓๖ วรรคแรก และมาตรา ๓๔๑ ถึงมาตรา ๓๖๔ นั้น ถ้าเป็นการกระทำที่สามีกระทำต่อภริยา หรือภริยากระทำต่อสามี ผู้กระทำไม่ต้องรับโทษ
ความผิดดังระบุมานี้ ถ้าเป็นการกระทำที่ผู้บุพการีกระทำต่อผู้สืบสันดาน ผู้สืบสันดานกระทำต่อผู้บุพการี หรือพี่หรือน้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกระทำต่อกัน แม้กฎหมายมิได้บัญญัติให้เป็นความผิดอันยอมความได้ ก็ให้เป็นความผิดอันยอมความได้ และนอกจากนั้น ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้
.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความคดีอาญา
.
มาตรา ๓๙ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ดังต่อไปนี้
(๑) โดยความตายของผู้กระทำผิด
(๒) ในคดีความผิดต่อส่วนตัว เมื่อได้ถอนคำร้องทุกข์ ถอนฟ้องหรือยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมาย
(๓) เมื่อคดีเลิกกันตามมาตรา ๓๗
(๔) เมื่อมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดซึ่งได้ฟ้อง
(๕) เมื่อมีกฎหมายออกใช้ภายหลังการกระทำผิดยกเลิกความผิดเช่นนั้น
(๖) เมื่อคดีขาดอายุความ
(๗) เมื่อมีกฎหมายยกเว้นโทษ
.
หมายเหตุ * บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย หากต้องการปรึกษากฎหมาย หรือคดีความ กรุณาสอบถามทนายความเพิ่มเติม
.
** ทนายเชียงใหม่ ทนายความเชียงใหม่ ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาคดีความ รับว่าความทั่วราชอาณาจักร
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น