วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

อยากให้ตำรวจ “ดำเนินคดี” หรือแค่ “ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน” ต้องเลือกให้ถูก!

 




อยากให้ตำรวจ “ดำเนินคดี” หรือแค่ “ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน” ต้องเลือกให้ถูก!

❓เคยไหม... มีเรื่องเสียหายเกิดขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าจะไปแจ้งความให้ตำรวจดำเนินคดี หรือแค่ไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อนดี?
ถ้าเลือกผิด... คดีของคุณอาจเงียบหายไปโดยไม่รู้ตัว!

วันนี้เราจะพาไปดูความแตกต่างระหว่าง “การแจ้งความดำเนินคดี” กับ “การลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน”
ผ่านกรณีสมมติที่จะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น


🎯 กรณีสมมติ: ลูกค้าจ่ายเช็คเด้ง

คุณพีท เจ้าของร้านเฟอร์นิเจอร์ในตลาดแห่งหนึ่ง
มีลูกค้ารายหนึ่งสั่งของจำนวนมาก พร้อมจ่ายด้วยเช็คธนาคาร
พีทดีใจและส่งของให้ตามสัญญา

แต่เมื่อถึงเวลานำเช็คไปขึ้นเงิน กลับได้รับแจ้งว่าเช็ค “เด้ง”
พีทจึงรีบไปที่โรงพัก แจ้งตำรวจว่าโดนโกง
ตำรวจถามว่า “จะเอาเรื่องเลยไหมครับ หรือแค่ลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน?”
พีทยังลังเล เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย จึงตอบว่า “ขอลงบันทึกไว้ก่อนครับ เดี๋ยวค่อยว่ากัน”

ผ่านไปหลายเดือน ลูกค้าคนนั้นไม่ติดต่อ และพีทก็ยังไม่ได้รับเงินคืน
เมื่อต้องการดำเนินคดีจริงจัง กลับถูกตำรวจแจ้งว่า
“ตอนนั้นคุณไม่ได้แจ้งความร้องทุกข์ทางอาญาอย่างเป็นทางการ แค่ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น”
ซึ่งหมายความว่า ยังไม่มีการเริ่มกระบวนการสอบสวนหรือดำเนินคดี
ทำให้การติดตามเงินคืนหรือดำเนินคดีกับลูกค้าล่าช้าและยากขึ้นมาก


⚖️ ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (7)
“คำร้องทุกข์” หมายความถึงการที่ผู้เสียหายได้กล่าวหาต่อเจ้าหน้าที่ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ว่ามีผู้กระทำความผิดขึ้น จะรู้ตัวผู้กระทำความผิดหรือไม่ก็ตามซึ่งกระทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เสียหาย และการกล่าวหาเช่นนั้นได้กล่าวโดยมีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ

คำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 419/2556 บทที่ 2 ข้อ 1.1.2
เมื่อมีผู้มาแจ้งความที่ไม่เกี่ยวกับคดีอาญา และผู้แจ้งมีความประสงค์จะแจ้งไว้ เป็นหลักฐานเพื่อประกอบการยืนยัน รับรอง หรือตรวจสอบ ให้พนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องบันทึกคำแจ้งความนั้น ในสมุดรายงานประจำวันรับแจ้งเป็นหลักฐาน ส่วนการแจ้งเอกสารหาย ให้บันทึกการรับแจ้งไว้ในสมุดรายงานประจำวันรับแจ้งเอกสารหาย


🧑‍⚖️ คำพิพากษาศาลฎีกาที่เกี่ยวข้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6644/2549
"...เมื่อข้อความในสำเนารายงานประจำวันดังกล่าวระบุแต่เพียงว่าผู้เสียหายทั้งสามมาแจ้งไว้เป็นหลักฐานเพื่อจะได้นำเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูงพิจารณาต่อไป จึงมิใช่เป็นการมอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย ไม่เป็นคำร้องทุกข์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 2 (7) เพราะขณะแจ้งยังมิได้มีเจตนาจะให้ผู้กระทำความผิดได้รับโทษ..."


🔍 วิเคราะห์

ในทางกฎหมาย “การแจ้งความเพื่อดำเนินคดี” คือการแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่า
“ต้องการให้ตำรวจเริ่มสอบสวน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด”
ซึ่งจะต้องแจ้งความร้องทุกข์หรือกล่าวโทษอย่างเป็นทางการ

แต่ถ้าคุณแค่ขอลงบันทึกประจำวันโดยไม่ได้ร้องทุกข์ชัดเจน
ตำรวจจะถือเป็นเพียงการบันทึกข้อมูลไว้เท่านั้น ไม่มีการเริ่มดำเนินคดี

ดังนั้น หากต้องการให้เรื่องเดินหน้า ควรแจ้งความร้องทุกข์ให้ชัดเจนตั้งแต่แรก
ไม่เช่นนั้นคดีอาจเงียบหาย ทำให้เสียสิทธิ์และเสียเวลา


✅ สรุป

  • ✅ หากต้องการให้ตำรวจ ดำเนินคดี → ต้องแจ้งความร้องทุกข์หรือกล่าวโทษอย่างเป็นทางการ

  • ✅ หากต้องการแค่บันทึกข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน (แต่ยังไม่อยากฟ้อง) → สามารถลงบันทึกประจำวันไว้ได้

  • ❌ แค่ลงบันทึกไว้ แต่ไม่แจ้งความร้องทุกข์ → ตำรวจไม่เริ่มดำเนินคดี


📝 หมายเหตุ

บทความนี้เป็นเพียงความเห็นทางกฎหมายเท่านั้น ผลทางกฎหมายหรือวิธีปฏิบัติทางกฎหมายจะขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย หากข้อเท็จจริงแตกต่างไป วิธีปฏิบัติและผลย่อมแตกต่างไปด้วย


🤝 ปรึกษาทนายตั้ม จาก JT Law Firm

ถ้าคุณมีปัญหาคดี อยากให้ดำเนินการถูกต้อง ไม่ให้เรื่องเงียบหาย
💬 ปรึกษาทนายตั้ม เราช่วยวางแผนและดำเนินคดีให้คุณอย่างมืออาชีพ
📩 ติดต่อผ่าน LINE หรือ โทรศัพท์ หรือ Facebook: JT ปรึกษากฎหมายกับทนายตั้ม


#แจ้งความ #ลงบันทึกประจำวัน #ดำเนินคดีอาญา #ปรึกษาทนาย #JTlawfirm #ทนายความเชียงใหม่ #รับว่าความทั่วประเทศ

0 Comments:

แสดงความคิดเห็น